ความจำเป็นที่จะต้องวางแผน ไม่ใช่ทำเฉพาะการลงทุนเท่านั้น
คุณจะเดินทางไปในสถานที่ที่คุณไม่เคยไปมาก่อนโดยไม่มีแผนที่ไม่มีเอกสารบอกเส้นทางใดๆ และไม่มีเครื่องนำทางจีพีเอสไหม ? คุณจะเริ่มต้นธุรกิจโดยไม่ยอมเสียเวลาและพลังงานเพื่อค้นคว้าวิจัยธุรกิจนั้นๆ ให้รู้แจ้งโดยตลอดแล้วเขียนแผนธุรกิจที่ดีเตียมไว้ก่อนหรือป่าว? คำตอบที่ได้นั้นจะอธิบายถึงคำที่คนโบราณกล่าวไว้ได้ว่า "ใครก็ตามที่ล้มเหลวในการวางแผน คนผู้นั้นก็ได้วางแผนไปสู่ความล้มเหลว"
ทั้งๆ ที่ภูมิปัญญาประโยคข้างต้นนี้สามารถใช้เป็นเครื่องเตือนใจได้เป็นอย่างดีแล้วก็ตาม นักลงทุนจำนวนมากก็ยังคงเริ่มต้นการลงทุนของเขาโดยไม่มีแผนการใดๆ เลย เหตุผลหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่ามีนักลงทุนจำนวนน้อยมากที่มีความสามารถในการเขียนแผนการลงทุนได้ดี และนั่นคือสิ่งที่ผู้คนในวอลล์สตรีทและสือมวลชนไม่อยากให้คุรทำ กลยุทธ์การเอาชนะของผู้คนเหล่านั้นคือ กลยุทธ์ที่จะทำให้คุณพ่ายแพ้นั่นเอง
มันเป็นสิ่งสำคัญมากที่ต้องพึงเข้าใจว่า แผนการลงทุนมีความจำเป็นต่อการตัดสินใจอย่างมีเหตุผลเกี่ยวกับการลงทุน คุณไม่สามารถที่จะประเมินค่าการลงทุนใดๆ ได้อย่างเหมาะสมโดยปราศจากการพิจารณาปัจจัยต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อความเสี่ยงและความคาดหวังต่อผลตอบแทนของพอร์ตการลงทุนของคุณ ซึ่งนั่นเป็นข้อได้เปรียบที่จะบรรลุถึงความสำเร็จในแผนการลงทุน
แผนการเงินจะต้องเป็นเอกสารที่มีชีวิต
เช่นเดียวกับแผนธุรกิจซึ่งต้องมีการทบทวนอยู่เป็นประจำเพื่อที่จะปรับเปลี่ยนไปตามปัจจัยต่างๆ ของตลาด แผนการลงทุนและแผนการเงินจะต้องเป็นเอกสารที่มีชีวิตต้วย ถ้าแผนใดๆ ของคุณมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมีเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับชีวิตเกิดขึ้น ก็จะส่งผลต่อแผนต่างๆ เป็นอย่างมาก ดังนั้นแผนการลงทุนจึงควรจะต้องได้รับการทบทวนทุกครั้งที่มีเหตุการณ์สำคัญๆ ในชีวิตเกิดขึ้น
การเคลื่อนไหวของตลาดก็สามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของสมมติฐานได้เช่นกัน ขณะที่ตลาดอยู่ในภาวะขาขึ้นอาจจะหมายความว่าคุณกำลังมุ่งหน้าไปสู่เป้าหมายแล้วซึ่งจะทำให้คุณมีความเสี่ยงน้อยลง แต่ภาวะตลาดขาขึ้นก็อาจจะไปลดความคาดหวังในผลตอบแทนลงได้ นั่นหมายความว่าเป้าหมายของหลายๆ คนอาจจะห่างไกลออกไปและจะต้องรับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย ในทางกลับกันสำหรับภาวะตลาดขาลงนั่นจะเกิดขึ้นได้จริง ดังนั้นนโยบายที่ดีคือการทบทวนแผนการลงทุนและสมมติฐานที่วางไว้ทุกๆ ปี
ก่อนที่คุณจะเขียนแผนการลงทุน คุณควรจะทบทวนแผนการเงินและสถานะส่วนบุคคลของคุณเสียก่อน นอกเหนือจากการพิจารณาแผนการเงินแล้ว คุณยังควรจะพิจารณาปัจจัยต่างๆ ดังต่อไปนี้อีกด้วย
- ความมั่นคงในหน้าที่การงานของคุณ
- ความเสี่ยงในงานของคุณเกี่ยวพันกับการลงทุนในหุ้นของคุณหรือไม่?
- ขนาดการลงทุนของคุณ
- ความทนทานต่อความเสี่ยง
- ความต้องการเงินสำรองฉุกเฉิน
จงจำไว้ว่าขนาดการลงทุนของคุณจะมีผลต่อการวางแผนเกษียณอายุของตัวคุณเอง และมันอาจจะเกี่ยวพันกับการจากไปของคุณ หากคุณลงทุนเผื่อแทนลูกหลาน
คุณควรจะพิจารณาถึงความจำเป็นที่จะต้องรับความเสี่ยงด้วย คุณเก็บออมเงินได้เพียงพอหรือไม่? ถ้าเพียงพอแล้ว ทำไมคุณจุต้องรับความเสี่ยงต่อไปอีก? นักลงทุนจำนวนมากมายล้มเหลวกับการทำความเข้าใจว่ากลยุทธ์ที่สร้างความร่ำรวย (โดยการรับความเสี่ยง) นั้นแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับกลยุทธ์ที่ดำรงความร่ำรวยให้คงอยู่
สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ มันไม่เพียงพอที่จะมีแค่แผนการลงทุนที่ดีเพียงอย่างเดียว คุณจำเป็นต้องนำแผนการเงินเข้ามาพิจารณาประกอบด้วยซึ่งจะต้องรวมถึงเรื่องอสังหาริมทรัพย์ การวางแผนภาษี และการจัดการความเสี่ยงไม่ว่าจะเป็นความต้องการของชีวิต สุขภาพ การเสื่อมสมรรถภาพ การรักษาพยาบาลระยะยาว หนี้สินส่วนบุคคล และการประกันชีวิต นอกจากนั้นยังต้องมีการวางแผนประกันสังคม แล้วในที่สุดยังต้องรวมถึงกิจกรรมการบริจาคสาธารณกุศลเข้าไปไว้ด้วย
แผนการลงทุนที่ดีควรจะต้องมีการส่งมอบความมั่งคั่งไปย้งสมาชิกในครอบครัวไว้ด้วย ซึ่งคุณสามารถทำร่วมกับแผนงานที่เรียกว่า แผนการลงทุนเพื่อครอบครัวมั่งคั่ง และที่สำคัญ คุณควรจะทำแผนฉุกเฉินไว้เผื่อกรณีที่พอร์ตการลงทุนของคุณล้มเหลวที่จะส่งมอบผลตอบแทนตามที่วางแผนไว้ คุณควรเขียนระบุให้ชัดเจนเลยว่าคุณจะแก้ปัญหาอย่างไรถ้าสภาวะตลาดตกต่ำนำไปสู่เหตุการณ์ความล้มเหลวที่คุณไม่สามรถยอมรับได้ คุณคงไม่อยากพบตัวเองอยู่ในสถานณ์การณ์ที่พอร์ตการลงทุนของคุณล้มเหลวหรือตกอยู่ในอันตรายเป็นแน่
หนังสือนโยบายการลงทุน หรือ IPS ของคุณควรรวมเอารายการของเป้าหมายเฉพาะไว้ด้วย เช่น มูลค่าเงินที่คุณว่างแผนจะเพิ่มเข้าไปในพอร์ตการลงทุนในแต่ละปี มูลค่าสินทรัพย์ที่คุณพยายามจะสะสมให้ได้ตามเวลาที่กำหนด เมื่อไรที่คุณจะเริ่มต้นถอนเงินออกจากพอร์ตการลงทุนของคุณ และมูลค่าเงินที่คุณจะถอนออกมาในแต่ละปี ข้อระบุทั้งหลายเหล่านี้จะทำให้คุณสามารถตรวจสอบความก้าวหน้าได้ว่าคุณยังคงดำเนินตามเป้าหมายที่วางไว้และตามระยะเวลาที่กำหนดหรือไม่ และเพื่อให้คุณปรับเปลี่ยนแผนได้อย่างเหมาะสมตลอดระยะเวลาการลงทุน ขั้นตอนต่อไปในการพัฒนาแผน IPS ของคุณคือ การจัดสรรการลงทุนหรือการจัดพอร์ตการลงทุน ควรรวมเอาตารางการจัดสรรการลงทุนแต่ละประเภทให้เป็นตามแผน มีการกำหนดขอบเขตการจัดสรรการลงทุนแต่ละประเภทโดยกำหนดวงเงินต่ำสุดและวงเงินสูงสุดที่คุณสามารถลงทุนได้เพื่อให้การปรับสมดุลพอร์ตการลงทุนทำได้คล่องตัวและยังเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ IPS ที่ทำขึ้นเป็นลายลักษณ์อักษรจะเป็นไกด์นำทางและช่วยสร้างวินับที่จำเป็นต่อกลยุทธ์ในการลงทุน ส่วนการพัฒนาแผนการจัดสรรการลงทุน เราจะพูดถึงในครั้งต่อไป